Last updated: 30 พ.ค. 2565 | 516 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนรักษาฝ้า...ก็ต้องมาทำความรู้จักฝ้ากันก่อนนะคะ
ความแตกต่างระหว่าง "ฝ้า" กับ "กระ"
กระ
จะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ มีสีน้ำตาลอ่อนหรืออาจจะเข้มกว่าสีผิวปกติ โดยจะขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตามผิวหน้า กระที่ขึ้นแค่ชั้นบนของผิวหรือชั้นหนังกำพร้าก็คือกระธรรมดา เช่น กระเด็กหรือกระแดด ส่วนกระชนิดที่ไม่ปกติธรรมดาก็ คือ กระเนื้อที่มีลักษณะเป็นสีเข้มๆ มีเนื้อนูนขึ้นมาจากผิวหนังมาก พบได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น จะว่าไปแล้วกระชนิดนี้อันที่จริงไม่ใช่กระหรอกค่ะ หากแต่เป็นเซลล์ผิวหนังที่เกิดการแบ่งตัวออกไปผิดรูปอีกแบบหนึ่ง โดยอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้ ถ้าหากมีขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับมีเลือดออกซ้ำๆ บ่อยๆ แนะนำว่าหากพบกระในลักษณะดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ผิวหนังด่วน
ฝ้า
จะมีลักษณะที่เป็นรอยปื้นๆ ใหญ่ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติของเรา โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งฝ้าออกได้เป็น 2 ชนิด คือชนิดตื้นและชนิดลึก โดยความแตกต่างของฝ้าทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ คือ ระดับความลึกของเม็ดสี
ฝ้าชนิดลึก >> เม็ดสีที่มีความผิดปกติจะอยู่ที่ชั้นหนังแท้
ฝ้าชนิดตื้น >> จะมีอยู่แค่ตรงชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น และความเข้มของเม็ดสีก็ยังมีน้อยกว่าฝ้าชนิดลึกอย่างมากอีกด้วย
ฝ้า คืออะไร?
"ฝ้า" หรือ "Melasma" เกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ โดยมักจะขึ้นเป็นวงเล็กๆสีน้ำตาลก่อน แล้วถ้าไม่หาทางหยุดฝ้า หรือป้องกัน ก็จะค่อยๆขยายเป็นปื้นและฝังลึกลงไปในเซลล์ผิว โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม มักเกิดกับผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 30-40 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชายถึง 9 เท่า
16 พ.ค. 2564